มีปัญหาความเหลื่อมล้ำเรื่องสถานศึกษา..(คุณภาพไม่เท่ากันก่อปัญหาสังคม )จึงมีการเขียนกฎหมายการศึกษาแห่งชาติว่าสถานศึกษาต้องมีคุณภาพต้องประกันคุณภาพ......( เอาอย่างระบบโรงงาน...เขาใช้ผู้บริหารที่ไม่ต้องมีประสบการณ์อะไรมากเปิดคู่มือ ISO..ปริหารงานได้อย่างมีคุณภาพ )...สถานศึกษาก็เอาอย่างเขาแต่ไม่เหมือนตอนที่ทำ...หลักการคือคู่มือนี้มอบให้ผู้ที่มีหน้าที่บริหารอ่าน...แล้วก็ทำตามอะไรที่ไม่ครบก็ทำให้ครบ...หน้าที่ใครทำอะไรต้องทำอะไร..ต้องประชุมมีหน้าที่ชี้แจงแล้วก็สั่งให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บเอกสารด้วยโดยหลักการมีการวางแผน..ดำเนินการ..จัดเก็บ..ประเมิน..สรุป..ปรับปรุง...แต่ความจริงทำไมเรามีแต่แผนที่ผู้บริหารใหญ่ประชุมกันทำ PM...FM...อย่างสวยงามแต่คนรับผิดชอบตรงนั้นไม่รู้ความหมายเลย...การดำเนินการจึงเป็นการแค่ทำให้มีเอกสารโดยที่คนทำไม่รู้วัตถุประสงค์ของเอกสาร..ยกตัวอย่าง..อาจารย์...ต้องทำแผนการสอน..มคอ.3ให้สอดคล้องกับหลักสูตร..มี KPI..ในหลักสูตรที่เขียนให้ทำ ทำก่อนสอน...แล้วสอนก็ให้สอนตามที่เขียน...ถ้าคำอธิบายรายวิชามันเก่าก็เก็บข้อมูลเสนอผู้ดูแลหลักสูตรเพื่อปรับปรุงคำอธิบาย..สอนเสร็จต้องทำ..มคอ.5..หลังสอน 30 วัน..ต้องทำทำเนียบเก็บประสบการณ์การสอน..ต้องทำหน้าที่ปรึกษาและเก็บข้อมูลเพื่อ....ต้อง...หลายอย่าง..ทำกันมาหลายปีแล้ววิธีการก็คือถ้าต้องการมีเอกสารก็ไล่แจกเอกสารให้กรอก คนตรวจก็ไม่ดูรายละเอียด...คนกรอกยังไม่รู้เลยว่ากรอกทำไม...การทำงานประเภทไล่แจกเอกสารให้กรอกมันจึงไม่ได้ทำให้คุณภาพดีขึ้นเลยครับ...แล้วจะแก้ปัญหายังไงครับคะเแนนที่ ได้ 2-3..มันไม่จริงค่า KPI..ก็หลอก ๆ นี้ละครับที่เรียกว่าลอกมาไม่หมด...ในคุณสมบัติผู้จะเป็นผู้บริหารต้องเข้าใจระบบคุณภาพเป็นอย่างดี....โรงงานนั้นบางที่ก่อนเป็นผู้บริหารเขาต้องจัดสอบ ISO ก่อน..ทำไมผู้บริหารเราจึงไม่สอบ ISOหรือระบบประกันคุณภาพ ก่อนเป็นผู้บริหารล่ะครับ.....คุณภาพมันจะได้ดีขึ้นตามกฎหมายที่บังคับ... |