การติดตั้ง Open Source Self Check Part I

จากบทความที่แล้ว เรื่อง สาธิตการใช้งาน Open Source Self Check คราวนี้มาดูการความต้องการของระบบและการติดตั้ง Open Source Self Check กันครับ

ความต้องการของระบบ (System Requirement)

  • ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ (Intregrated Library System) ที่มีคุณสมบัติรองรับการใช้งาน SIP 2 (กรุณาสอบถามจากผู้ให้บริการ อาจมีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน SIP 2 *สำหรับผมทดสอบจากระบบห้องสมุดอัตโนมัติเพื่อสถาบันอุดมศึกษาไทยหรือ ALIST ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
  • ซอฟท์แวร์ Open Source Self Check สามารถดาวน์โหลดเวอร์ชั่นปัจุจบันได้ที่ Open Source Self Check
  • เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ที่รองรับภาษา PHP (กรณีการติดตั้งแบบที่ 1.) และ เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย(Client)ที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้(หากเป็นจอสัมผัสผู้ใช้จะสะดวก แต่ทั้งนี้ก็ไม่จำเป็นนัก) หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายที่รองรับภาษา PHP และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้(กรณีการติดตั้งแบบที่ 2.และหากเป็นจอสัมผัสผู้ใช้จะสะดวก แต่ทั้งนี้ก็ไม่จำเป็นนัก)
  • เครื่องอ่าน Barcode
  • เครื่องพิมพ์ขนาดเล็กสำหรับพิมพ์ สลิป(ไม่จำเป็น)
  • ความรู้พื้นฐานในการจัดการเครื่องแม่ข่าย Webserver ของผู้ติดตั้ง(สำคัญมาก)

การติดตั้งแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกันคือ

แบบที่ 1. การติดตั้ง Open Source Self Check บนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย

ข้อดี

– ไม่ต้องทำการติดตั้งหลายครั้ง สามารถขยายสถานีบริการได้เรื่อยๆ

– หากมีการปรับปรุง(Update)ซอฟท์แวร์ Open Source Self Check สามารถทำได้จากที่ๆเดียว คือเครื่องแม่ข่ายที่ติดตั้ง Open Source Self Check

ข้อเสีย

– ไม่ทราบว่า ผู้ใช้บริการยืมจากเครื่องบริการไหน เพราะทุกเครื่องบริการจะเป็นเครื่องไคลเอนท์เท่านั้น ที่ระบบห้องสมุดอัตโนมัติจะทราบว่ามีการยืมจากเครื่องแม่ข่ายเพียงเครื่องเดียว ซึ่งยุ่งยากในการตรวจสอบในกรณีที่มีปัญหาในการยืม

แบบที่ 2. การติดตั้ง Open Source Self Check บนเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย

ข้อดี

– จะทราบว่า ผู้ใช้บริการยืมจากเครื่องบริการไหน เพราะทุกเครื่องบริการจะเทำการติดต่อไปที่ระบบห้องสมุดอัตโนมัติโดยตรง และจะทราบว่ามีการยืมจากเครื่องบริการเครื่องไหน ซึ่งจะลดความยุ่งยากในการตรวจสอบในกรณีที่มีปัญหาในการยืม และเป็นรูปแบบที่ Commercial Self Check นิยมทำกัน

ข้อเสีย

– ต้องทำการติดตั้งหลายครั้งตามจำนวนเครื่องให้บริการ แต่ก็สามารถขยายสถานีบริการได้เรื่อยๆ

– หากมีการปรับปรุง(Update)ซอฟท์แวร์ Open Source Self Check ต้องทำทุกๆเครื่องบริการ

ทั้งนี้อาจต้องศึกษาผลจากการใช้งานด้วยนะครับ โดยส่วนตัวแนะนำว่าติดตั้งแบบที่ 2.2 น่าจะไม่ยุ่งยากเพราะ คงไม่มีหน่วยงานไหนทำ Self Check หลายๆตัว แต่ถ้ามีหลายเครื่องจริงๆก็ใช้การ Remote ไปดูแลรักษาก็ได้ครับ

PHPSelfCheckinstallation

ภาพรูปแบบการติดตั้งทั้ง 2 แบบ

ก่อนการติดตั้งท่านจะต้องประสานกับผู้ขายหรือผู้ให้บริการระบบห้องสมุดอัตโนมัติ โดยสอบถามว่า รองรับ SIP2 Server หรือไม่ หากไม่รองรับหรือไม่มี ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆต่อได้ แต่ถ้าหากรองรับ(อาจมีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน) ท่านต้องขอข้อมูลในการเชื่อมต่อกับ SIP2 ดังนี้

  • หมายเลข IP หรือโดเมนเนมของเครื่องระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ที่รองรับ SIP2  จดบันทึกไว้ : $sip_hostname = ‘หมายเลข IP ที่ได้มา’
  • หมายเลข Port ของเครื่องระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ที่รองรับ SIP2 จดบันทึกไว้ : $sip_port = ‘หมายเลข Port ที่ได้มา’
  • หาก SIP2 ของคุณต้องการ Username และ Password ในการเชื่อมต่อ ต้องขอมาด้วย
    • Username ในการเชื่อมต่อ SIP2 จดบันทึกไว้ : $sip_login= ‘Username ที่ได้มา’
    • Password ในการเชื่อมต่อ SIP2 จดบันทึกไว้ : $sip_password = ‘Password  ที่ได้มา’

ผู้ติดตั้งต้องเลือกแล้วละครับว่าจะติดตั้งแบบที่ 1 หรือ 2 แต่ผมจะเขียนทั้ง 2 วิธีครับเพราะไม่ต่างกันมาก ตอนนี้ให้ผู้อ่านไปหาข้อมูลก่อน ว่าความต้องการของระบบ เลือกรูปแบบวิธีการติดตั้ง และ ข้อมูลในการเชื่อมต่อกับ SIP2 มาก่อนครั้งหน้าเรามาดูวิธีติดตั้งทั้ง 2 แบบกันนะครับ