| |
วัฏจักรของธาตุ
ในระบบนิเวศนั้น
ปรากฏการณ์สำคัญอย่างหนึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
ก็คือการหมุนเวียนของแร่ธาตุเป็นวัฏจักรจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่สิ่งแวดล้อมอีก
เป็นเช่นนี้เรื่อย ๆ ไป วัฏจักรของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบแก่นสารของสิ่งมีชีวิต
เช่น
1.
วัฏจักรของคาร์บอน คาร์บอนซึ่งอยู่ในบรรยากาศ
มีโอกาสหมุนเวียนเข้าสู่สิ่งมีชีวิตได้ โดยการสังเคราะห์แสงของผู้ผลิตในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อสิ่งมีชีวิตตายลง
บางส่วนจะถูกสลายโดยผู้สลายทำให้คาร์บอนมีโอกาส ถูกปลดปล่อยสู่บรรยากาศในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนซากที่ไม่ถูกสลายเมื่อทับถมกันเป็นเวลานานก็จะกลายไปอยู่ในรูปของถ่านหิน
น้ำมัน เป็นต้น แม้ว่าพืชบกจะมีบทบาทสำคัญในการตรึงคาร์บอนเอาไว้ในรูปของสารอินทรีย์ก็ตาม
แหล่งควบคุมใหญ่ของปริมาณคาร์บอนก็ยังคงเป็นทะเลและมหาสมุทร
2.
วัฏจักรของไนโตรเจน วัฏจักรของไนโตรเจนมีความซับซ้อนมาก
แม้ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีไนโตรเจนอยู่ถึง
79% แต่มีสิ่งมีชีวิตเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ที่สามารถใช้ได้โดยตรงในรูปของก๊าซ
3.
วัฏจักรออกซิเจน การหมุนเวียนของออกซิเจนระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
ต้อง อาศัยขบวนการหายใจและการสังเคราะห์แสงร่วมกันความสมดุลของออกซิเจนในวัฏจักรจึงขึ้นอยู่กับขบวนการทั้งสองนี้เป็นสำคัญ
4. วัฏจักรกำมะถัน กำมะถันเป็นธาตุสำคัญธาตุหนึ่งในการสังเคราะห์โปรตีนหลายชนิด
แหล่งกำมะถันส่วนใหญ่ได้จากการสบายตัวองสารอินทรีย์ที่ทับถมในดิน
หรือตกตะกอนทับถมกันในดิน ในบรรยากาศพบกำมะถันเป็นจำนวนน้อย
กำมะถันที่พบทั้งในดิน น้ำ บรรยากาศ ล้วนอยู่ในรูปของสารประกอบ
เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ และซัลเฟต ตัวการทีเปลี่ยนแปลงและควบคุมกำมะถันให้เป็นสารประกอบรูปต่างๆ
มีทั้งตัวการทางชีวภาพ เช่น แบคทีเรีย ตัวการทางกายภาพ ได้แก่
การกัดเซาะและการตกตะกอน เป็นต้น
5. วัฏจักรฟอสฟอรัส ฟอสฟอรัสเป็นส่วนประกอบที่สำคัญและจำเป็นของสิ่งมีชีวิต
เนื่องจากเป็นองค์ประกอบของกรดนิวคลีอิก ฟอสโฟไลปิด และ ATP
ฟอสฟอรัสส่วนใหญ่อยู่ในรูปของแร่ฟอสเฟตคือ แคลเซียมฟอสเฟตหรือหินหอสเฟต
เมื่อแร่และหินผุพังหรือสึกกร่อน ฟอสฟอรัสจะสลายตัวตามธรรมชาติละลายในน้ำใต้ดิน
สิ่งมีชีวิตใช้ฟอสฟอรัสในน้ำมาสร้างโพรโทพลาสซึม เมื่อและสัตว์ตายลงฟอสเฟไทซิ่ง
แบคทีเรีย จะสลายธาตุฟอสฟอรัสกลับสู่ดินและน้ำอีกกลายเป็นฟอสฟอรัสที่ละลายน้ำได้
6. วัฏจักรของน้ำ น้ำเป็นตัวอย่างของขบวนการต่าง
ๆ ในสิ่งมีชีวิตรวมทั้งเป็นแหล่งให้ไฮโดรเจนที่สำคัญ น้ำที่ปรากฏในโลกจะอยู่ในสภาพและแหล่งต่าง
ๆ กัน ทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม น้ำในดินน้ำในอากาศในรูปของไอน้ำและน้ำแข็งที่ปกคลุมขั้วโลก
ในจำนวนนี้มีการหมุนเวียนเป็นวัฏจักรโดยส่วนใหญ่เป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างผิวโลก
และบรรยากาศโดยการระเหยและการกลั่นตัวตกกลับสู่ผิวโลก
7. วัฏจักรของแคลเซียม
สารประกอบแคลเซียมพบในดิน และละลายอยู่ในน้ำได้บ้าง เนื่องจากจุลินทรีย์ไม่สามารถย่อยสลายสารประกอบแคลเซียมได้
ดังนั้นจึงพบสารประกอบแคลเซียมทับถมอยู่ในดินหรือเป็นตะกอนที่ก้นแหล่งน้ำ
เมื่อเวลาผ่านไปหลายล้านปีทำให้กลายเป็นหิน หรือส่วนหนึ่งของภูเขาไปได้สิ่งมีชีวิตนำแคลเซียมไปใช้ประโยชน์เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่ง
เช่น หอยนำแคลเซียมไปเป็นส่วนประกอบของเปลือกหอย ในรูปของแคลเซียมคาร์บอเนต
ในมนุษย์วช่วยทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด และช่วยในการนำกระแสประสาท
วัฎจักรของแคลเซียมจะสัมพันธ์กับวัฎจักรของฟอสฟอรัส เนื่องจากอยู่ในรูปของหารประกอบแคลเซียมฟอสเฟต
8. การถ่ายทอดสารพิษในระบบนิเวศ
โดยมากเรานึกว่าธรรมชาติจะดูดซับสารพิษได้หมด จึงไม่ค่อยระมัดระวังในการกำจัดสารพิษในสภาพแวดล้อม
เช่น การใช้สารกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร ทำให้มีสารตกค้างตามต้นพืชและตามผิวดิน
จะถูกชะล้างไปกับน้ำฝนและไหลลงสู่แหล่งน้ำ สารพิษเหล่านี้เป็สารที่สลายตัวช้าจะสะสมในแหล่งน้ำนั้นมากขึ้น
ซึ่งจะมีผลกับสิ่งมีชีวิตในน้ำ เช่น สัตว์ที่กินอาหารโดยการกรองจะสะสมพิษได้สูงมากโดยเฉพาะหอยนางรม
ซึ่งกินอาหารโดยการกรองอยู่ในน้ำตื้นใกล้ฝั่งที่มีการทิ้งของเสียลงมามาก
และยังไม่ทันแพร่กระจาย ดังนั้นหอยนางรมจึงมีสารพิษสูงกว่าในน้ำมาก
ดังนั้นสารจะแพร่กระจายไปตามลำดับขั้นการบริโภคเข้าสู่ผู้บริโภคลำดับสุดท้ายหรือเข้าสู่มนุษย์จนเป็นอันตรายได้นั่นเอง
|
|